เมื่อไรไม่มีราคะ โทสะ โมหะ เมื่อนั้นจิตก็ประภัสสร สว่าง ผ่องใส สบาย มีความสุข จิตที่ประภัสสรมันจะมีเวทนา คือความรู้สึกได้ 2 อย่าง คือมีความสุขเรียกว่าโสมนัสเวทนา กับอุเบกขาเวทนา ไม่สุข ไม่ทุกข์ เฉยๆ ตัวจิตที่ประภัสสรนี้ เรียกภาษาที่ครูบาอาจารย์แต่ก่อนท่านเรียก คือจิตผู้รู้ จิตผู้รู้นี้ผ่องใสแต่ไม่บริสุทธิ์ ต้องมาฝึกวิปัสสนากรรมฐานต่อไป เพื่อชำระล้างจิตผู้รู้ตัวนี้ หรือจิตประภัสสรตัวนี้ ชำระล้างจนมันเข้าถึงความบริสุทธิ์ “บุคคลเข้าถึงความบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา” ปัญญาก็คือการที่เราเห็นจิตใจของเรานี้ ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ จิตที่เป็นจิตประภัสสรนั้น เดี๋ยวก็เศร้าหมอง เวลากิเลสมา จะห้ามกิเลสไม่ให้มา ก็ห้ามไม่ได้ กิเลสก็เป็นอนัตตา จิตก็เป็นอนัตตา เราก็จะเห็นว่าจิตเดี๋ยวก็ผ่องใส เดี๋ยวก็เศร้าหมอง เฝ้ารู้เฝ้าดูอย่างนี้ ต่อไปปัญญามันก็เกิด จิตประภัสสร หรือจิตที่ผ่องใส หรือจิตผู้รู้นั้น สั่งให้เกิดก็ไม่ได้ เกิดแล้วรักษาไว้ก็ไม่ได้ จะห้ามกิเลสไม่ให้จรมาก็ไม่ได้ กิเลสมาแล้วจะไล่มันก็ไม่ไป แต่พอมีสติรู้ทันเท่านั้นเอง กิเลสดับทันทีเลย จิตก็ประภัสสรทันทีเลย หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 22 เมษายน 2566