เวลาภาวนา เราจะพบความแตกต่างของคน 2 จำพวก พวกหนึ่งภาวนาด้วยตัณหา พวกนี้จะคิดอย่างเดียวว่าเมื่อไรจะจบ เมื่อไรจะสำเร็จ เมื่อไรจะได้มรรคผลสักที พอทำไปนานๆ แล้วไม่ได้ มันจะได้ได้อย่างไร เพราะเราทำเหตุของทุกข์ มันจะไปพ้นทุกข์ได้อย่างไร อยากพ้นทุกข์ก็ต้องทำเหตุของความพ้นทุกข์ คือการเจริญอริยมรรคมีองค์ 8 ก็ต้องทำเหตุให้ถูก ผลก็จะถูก พอเราเริ่มด้วยอยากๆ อยากบรรลุเร็วๆ อยากเห็นผลเร็วๆ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือความดิ้นรนของจิต พยายามจะทำอย่างนั้น พยายามจะทำอย่างนี้ สิ่งที่ได้คืออะไร ได้ทุกข์ ยิ่งพยายามมากยิ่งทุกข์มาก หลวงพ่อเคยพูดเรื่อยๆ บางคนนึกว่าหลวงพ่อพูดเล่น หลวงพ่อบอก “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความล้มเหลวอยู่ที่นั่น” เพราะว่าความพยายามตัวนี้ มันเป็นความพยายามที่เจือด้วยตัณหา เจือด้วยโลภะ มันมีความพยายามอีกอย่าง ความอยาก ความอยากมันมี 2 อย่าง อันหนึ่งอยากได้มา อยากรักษาไว้ อยากให้เป็นอย่างนั้น อยากให้เป็นอย่างนี้ อันนี้คือตัณหา อีกอันหนึ่งคือฉันทะ ถ้าเราภาวนาด้วยตัณหา เราอยากได้ผล ถ้าเรามีฉันทะ เรามีความพึงพอใจที่จะทำเหตุ ถ้าเรามีฉันทะ เราพอใจที่จะทำเหตุ ไม่ใช่แสวงหาผล ถ้าอยากได้ผล เป็นตัณหา ถ้าอยากทำเหตุที่ดีที่ถูกต้อง อันนี้เรียกว่าฉันทะ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 22 มิถุนายน 2567